วันที่ 09-12-2023
จุดกำเนิดเพชรมาจากไหน
เพชร หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Diamond เดิมมีต้นกำเนิดมาจากภาษาละตินว่า “Adamas” และจากภาษากรีกว่า “Adamao” เป็นคำเฉพาะสำหรับใช้เรียกสิ่งของที่มีความแข็งแรงที่สุด และเมื่อมนุษย์ได้รู้จักกับอัญมณีที่แข็งแรงที่สุดชิ้นนี้ จึงได้นำคำ ๆ นี้มาแทนความหมายในเวลาต่อมา และภายหลังได้เปลี่ยนเป็นคำว่า Diamond อีกครั้ง
ประวัติศาสตร์ของเพชรเดิมเริ่มกำเนิดที่ประเทศอินเดีย แรกเริ่มไม่ได้ถูกนำมาใช้สำหรับเป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงามเหมือนปัจจุบัน เดิมผู้คนใช้เพชรในการพกพาติดตัวไปเพื่อไม่ให้มีความแคล้วคลาด และเชื่อว่าจะสามารถปกป้องตนเองจากภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น จากความเชื่อว่าหินมีค่าทุกชนิดมีพลังพิเศษในตัว ดังนั้นในอดีต ประเทศอินเดีย จึงมองเพชรว่าเป็นอัญมณีที่ทรงอำนาจ และเป็นของคู่ควรกับราชา หรือเจ้าชายเท่านั้น รวมถึง Shah Jahan กษัตริย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ว่ากันว่าพระองค์ทรงมีเพชรไว้ในครอบครองมากมายมหาศาล ซึ่งเพชรเหล่านั้นได้มาจากเหมือง Galconda อยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยม Godavari
ยุคทองของเพชรเริ่มเมื่อใด
แล้วเพชรเริ่มกระจายต่อไปทั่วโลกได้อย่างไร อ้างอิงตามบันทึก เพชรเริ่มเข้าไปมีบทบาทกับชาวตะวันตกครั้งแรก เมื่อชาวอินเดียเริ่มมีการค้าขายกับชาวกรีก เมื่อชาวยุโรปเริ่มรู้จักอัญมณีที่เรียกว่าเพชร ไม่นานเพชรก็ได้เริ่มถูกเผยแพร่เข้าไปในวัฒนธรรมของยุโรป ในช่วง 27 ปีก่อนคริสตกาล ชาวโรมันที่มีฐานะร่ำรวยเริ่มหันมาใส่เครื่องประดับ โดยเฉพาะแหวนเพชร ซึ่งเพชรที่ใช้ในช่วงเวลาดังกล่าว จะยังคงเป็นเพชรดิบที่ไม่ผ่านการเจียระไน ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพชรได้เริ่มถูกเผยแพร่ข้ามมาถึงกลุ้มนักรบอัศวิน โดยนำเพชรมาประดับเพชรบนเสื้อเกราะ ต่อมาช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 และ 16 เพชรเริ่มได้รับการพัฒนา เริ่มมีการเจียระไนแบบเหลี่ยมหน้ากระดาน ถึงกระนั้นหากจะพูดถึงยุคทองของเพชรได้เริ่มต้นเมื่อใด เราสามารถพูดได้ว่าเพชรได้เริ่มเผยแพร่เข้าสู่ยุโรปอย่างจริงจังเมื่อ Vasco Da Gamma ค้นพบเส้นทางการเดินเรือทางทะเลอ้อมแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ในพื้นที่แอฟริกาใต้ ทำให้การค้าขายระหว่างชาวอินเดียและชาวยุโรปเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และปีที่เราสามารถพูดได้ว่ากลายเป็นยุคทองของเพชร ได้เริ่มต้นหลังจากนั้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ปริมาณเพชรเริ่มมีมากขึ้นตามท้องตลาด จึงถือว่าเพชรเป็นสุดยอดแห่งอัญมณีตั้งแต่นั้นมา และส่งผลให้ยุโรปเริ่มมีตลาดค้าเพชรเป็นของตัวเองขึ้นมา และด้วยความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นนักเดินเรือของชาวยุโรป จึงยิ่งผลักดันให้เพชรกระจายต่อไปทั่วโลกในเวลาต่อมา
ต่อมาในปี ค.ศ. 1948 (ยุคปัจจุบัน) บริษัทผู้ค้าเพชรรายใหญ่อย่าง De Beers เริ่มโครงการส่งเสริมการขายภายใต้ชื่อ "A Diamond is forever” และได้กลายเป็นสโลแกนหลักที่ทุกคนยังคงใช้อยู่จนทุกวันนี้ และในปี ค.ศ. 1953 นิยามเพชรฉบับใหม่จากมาริลีน มอนโร ผู้ได้ชื่อว่า Sex Symbol ในยุคนั้นได้ร้องเพลงที่ชื่อว่า "Diamonds are a Gir's Best Friend" ก็สามารถจุดประกายให้เพชรกลายเป็นสุดยอดอัญมณีเพิ่มเข้าไปอีก และทำให้เพชรจึงกลายเป็นของที่สาว ๆ ทั่วโลกอยากครอบครองจนทุกวันนี้